กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ (1 เม.ย.) ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่ง
ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 5.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 4.98 พันล้านดอลลาร์
ยอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ทะยานขึ้น 11.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. โดยได้รับอานิสงส์จากดีมานด์ที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ต่อสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ซึ่งเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจเกาหลีใต้พึ่งพารายได้จากต่างประเทศเป็นอย่างมาก
แผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในการขึ้นภาษีศุลกากรและดึงฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ นั้น ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อบริษัทเกาหลีใต้หลายแห่งที่พึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก เช่น ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (Samsung Electronics) รวมถึงบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ เช่น ฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) เป็นต้น