ผลสำรวจทางธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (1 เม.ย.) แสดงให้เห็นว่า ผลผลิตภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ส่งสัญญาณว่าภาคการผลิตที่ซบเซามานานอาจกำลังเริ่มฟื้นตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนประจำเดือนมี.ค. ซึ่งจัดทำโดย HCOB และรวบรวมข้อมูลโดย S&P Global อยู่ที่ 48.6 ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 48.7 แต่สูงกว่าระดับ 47.6 ในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
แม้ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดยเฉพาะดัชนีผลผลิต ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ PMI ได้ปรับตัวขึ้นจาก 48.9 ในเดือนก.พ. มาแตะระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน และเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การฟื้นตัวที่ยังเปราะบางนี้อาจเผชิญความเสี่ยงจากมาตรการภาษีการค้าใหม่ ๆ ที่สหรัฐฯ อาจนำมาใช้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขที่ดีขึ้นในเดือนมี.ค.ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่บริษัทต่าง ๆ เร่งสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากภาษีที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขในเดือนต่อ ๆ ไปชะลอตัวลงได้
แม้จะมีความกังวลดังกล่าว ผู้ผลิตส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออนาคต โดยดัชนีคาดการณ์ผลผลิตในอีก 12 เดือนข้างหน้ายังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 59.9