สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม รายงานในวันนี้ (6 เม.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ขยายตัว 6.93% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้านั้นซึ่งขยายตัว 7.55%
อย่างไรก็ดี กิจกรรมทางเศรษฐกิจของเวียดนามมักชะลอตัวในไตรมาสแรกของทุกปีอยู่แล้ว เนื่องจากมีการหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่เวียดนาม แต่ที่ปรึกษาด้านการลงทุนหลายรายเชื่อว่า การเติบโตในปีนี้อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติม เพราะหลายบริษัทชะลอการตัดสินใจลงทุนออกไป เพื่อรอดูความชัดเจนในเรื่องมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
เวียดนามเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศในภาคการผลิต ซึ่งกำลังถูกกดดันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 46% สำหรับสินค้าที่ส่งออกจากเวียดนามไปยังสหรัฐฯ
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่โดนเก็บภาษีตอบโต้หนักที่สุด หลังจากที่ทรัมป์ประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำ 10% กับทุกประเทศที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ พร้อมเพิ่มภาษีพิเศษกับประมาณ 60 ประเทศ โดยอัตราภาษีใหม่นี้อาจฉุดรั้งเป้าหมายของเวียดนามที่ตั้งใจผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างน้อย 8% ในปีนี้