ผลสำรวจจากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ที่เผยแพร่ในวันนี้ (8 เม.ย.) ระบุว่า ภาวะธุรกิจในออสเตรเลียเดือนมี.ค.ยังคงทรงตัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจกลับลดลงสู่แดนลบมากขึ้น ก่อนที่ความขัดแย้งเรื่องการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
ดัชนีภาวะธุรกิจของ NAB ขยับขึ้นเล็กน้อย 1 จุด สู่ระดับ +4 ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง 1 จุด สู่ระดับ -3
สำหรับรายละเอียดในผลสำรวจ NAB เดือนมี.ค. พบว่า ดัชนีด้านยอดขายและการจ้างงานส่วนใหญ่ยังคงที่ ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 82.9% จาก 82% ส่วนแรงกดดันด้านราคาส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAB กล่าวว่า ภาคธุรกิจยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อแนวโน้มในอนาคต โดยทั้งความเชื่อมั่นและภาวะธุรกิจต่างอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย พร้อมชี้ว่าการสำรวจนี้จัดทำขึ้นก่อนการประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้กันในช่วงต้นเดือนเม.ย. ซึ่งอาจส่งผลต่อตัวเลขในผลสำรวจครั้งต่อไป
สถานการณ์ภาษีศุลกากรล่าสุดที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศใช้ภาษีใหม่และขู่ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกนั้น ได้เปลี่ยนแปลงภาพรวมธุรกิจทั่วโลกไปอย่างมากนับตั้งแต่นั้นมา
ความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. แม้เพิ่งจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ตาม และตลาดยังคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมตลอดปี 2568
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากเวสต์แพค-สถาบันเมลเบิร์นก็ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย. จากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งสะท้อนความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าเช่นกัน