บริษัท โตเกียว โชโก รีเสิร์ช (Tokyo Shoko Research หรือ TSR) เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ยื่นขอล้มละลายในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 10,144 บริษัท สูงสุดในรอบ 11 ปี ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจังหวะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อภาคธุรกิจ โดยบริษัทในเกือบทุกภาคอุตสาหกรรมยื่นล้มละลายมากกว่าปีก่อนหน้า ยกเว้นภาคการเงินและการขนส่ง
TSR ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของญี่ปุ่น ระบุว่า จำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับ 10,144 แห่ง ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 ที่มีบริษัทยื่นล้มละลาย 10,536 แห่ง
อย่างไรก็ตาม หนี้สินโดยรวมจากการล้มละลายลดลงมาอยู่ที่ 2.37 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2567 จาก 2.46 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2566 เนื่องจากบริษัทที่ยื่นล้มละลายส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง
ทั้งนี้ ข้อมูลบริษัทล้มละลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ BOJ จับตาเพื่อประเมินความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า ธนาคารกลางจะยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากยังคงมีการปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นค่าจ้างในบริษัทขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการบริโภค