สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ (17 เม.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.9% ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 0.7% เนื่องจากต้นทุนอาหารสด น้ำมัน และค่าบริการการศึกษาพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่ายังคงมีโอกาสที่แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากปัจจัยที่หนุนอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นปัจจัยชั่วคราว
ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งสูงกว่าระดับ 2.2% ในไตรมาส 4/2567 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.3% โดยอัตราเงินเฟ้อรายปียังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ที่ระดับ 1-3%
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงเกินคาดในไตรมาสแรกคือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดลงอย่างมากหลังจากนั้น ซึ่งคาดว่าจะกดอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2/2568 ให้ลดลงตามไปด้วย
ก่อนหน้านี้ แบงก์ชาตินิวซีแลนด์ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องด้วยความเสี่ยงจากสงครามการค้าโลก โดยตลาดยังคงคาดการณ์ว่า RBNZ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 28 พ.ค. จากระดับปัจจุบันที่ 3.50% และคาดด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจลดลงเหลือ 2.75% ภายในเดือนต.ค.