นักวิเคราะห์ของ EY ITEM Club ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปี 2568 ลงเหลือ 0.8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2569 ลงเหลือ 0.9% จากระดับ 1.6% เนื่องจากคาดว่ามาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในภาคเอกชน
EY ITEM Club ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจชั้นนำของอังกฤษคาดการณ์ว่า มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลให้การลงทุนในอังกฤษได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในปีนี้ และคาดว่าการส่งออกของอังกฤษจะชะลอตัวลงทั้งในปีนี้และปีหน้า
ทั้งนี้ EY ITEM Club ระบุว่า สินค้าส่วนใหญ่ของอังกฤษเผชิญกับมาตรการภาษีศุลกากรพื้นฐาน (Baseline Tariff) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 10% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้บริษัทเอกชนชะลอการลงทุนและทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย โดยคาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอังกฤษปีนี้จะขยายตัวเพียง 0.9% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 1.6% ขณะเดียวกันคาดว่าการลงทุนในภาคเอกชนจะขยายตัวเพียง 0.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2% และการส่งออกในปี 2568 จะลดลง 0.5% ขณะที่การส่งออกในปี 2569 คาดว่าจะลดลง 0.4%
นอกเหนือจากมาตรการภาษีศุลกากรที่มีแนวโน้มทำให้การค้าโลกตกอยู่ในภาวะชะงักงันแล้ว นักวิเคราะห์ของ EY ITEM Club ระบุว่า ปัญหาเงินเฟ้อสูงก็มีเป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจอังกฤษอ่อนแอลง
นักวิเคราะห์ของ EY ITEM Club คาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ประชุม BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50% เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ BoE ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.2567 หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00% ในการประชุมเดือนส.ค.2567 ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี