จ้าว เฉินซิน รองประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ (28 เม.ย.) ว่า รัฐบาลจีนเตรียมใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็แสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับประมาณ 5% ในปี 2568 ตามที่วางไว้
การแสดงความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่ หลัน ฝออัน รัฐมนตรีคลังของจีนกล่าวว่า จีนยังคงตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจเติบโต 5% ในปี 2568 แม้มีปัญหาความตึงเครียดด้านการค้าก็ตาม พร้อมกับกล่าวว่าจีนจะใช้นโยบายเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ อีกทั้งเสริมว่า จีนต้องการช่วยทำให้เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีคลังของจีนได้ตำหนิมาตรการกีดกันทางการค้า และเรียกร้องให้สถาบันระหว่างประเทศสนับสนุนการค้าเสรี พร้อมยืนยันว่าจีนจะยังคงเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนและทำการค้าได้อย่างเสรี
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสแรกปีนี้เติบโต 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลสนับสนุนการบริโภค และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นก่อนจะมีการเก็บภาษีนำเข้าใหม่ อย่างไรก็ตาม ธนาคารชั้นนำอย่าง ยูบีเอส, โกลด์แมน แซคส์ และซิตี้กรุ๊ป ต่างปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีนในปีนี้ลงมาเหลือประมาณ 4% หรือต่ำกว่านั้น
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2568 ลงสู่ระดับ 4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ว่าจะขยายตัว 4.6% สะท้อนให้เห็นว่า IMF คาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2568 ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ประมาณ 5%