ตลาดหุ้นเอเชียเปิดการซื้อขายอย่างซบเซาในวันนี้ (29 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูว่าภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาอย่างใกล้ชิดกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียด้วย
-- ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังเข้าใกล้วันครบ 100 วันของการดำรงตำแหน่งในสมัยที่สอง คะแนนนิยมของเขาตกลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกันในรอบ 80 ปี
ทั้งนี้ วันที่ 30 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 100 วันของทรัมป์ในการดำรงตำแหน่งในสมัยที่สอง โดยผลสำรวจระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลักหลายด้านของเขา ไม่พอใจต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ และกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
-- ข้อมูลจาก CFRA Research ระบุว่า การรับตำแหน่งประธานาธิบดี 100 วันแรกในสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความเสียหายต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมากที่สุดนับตั้งแต่การเริ่มต้นการทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1970
ทั้งนี้ การดิ่งลง 7.9% ของดัชนี S&P 500 นับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. จนถึง ณ เวลาปิดตลาดในวันที่ 25 เม.ย. ถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วง 100 วันแรกเมื่อนับย้อนกลับไปจนถึงการเริ่มต้นการทำงานในสมัยที่ 2 ของอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศหยุดยิงในการทำสงครามกับยูเครนเป็นเวลา 3 วันในเดือนหน้าเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 80 ปีของชัยชนะของโซเวียตรัสเซียและประเทศพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
การหยุดยิงเป็นเวลา 72 ชั่วโมงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค.
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์ที่ 2 พ.ค.นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานอาจเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
-- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 6-7 พ.ค.
กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
-- นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันอย่างหนักให้เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม ตุลาคม และธันวาคม
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ค.
-- สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) เปิดเผยในเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ว่า ทั่วโลกใช้จ่ายด้านการทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.72 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อปี 2531 และเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน อันเป็นผลมาจากการสู้รบอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซียในยูเครนที่เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนก.พ. 2565 ตลอดจนความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง
เสี่ยว เหลียง นักวิจัยโครงการค่าใช้จ่ายทางการทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI ระบุในแถลงการณ์ว่า กว่า 100 ประเทศทั่วโลกเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารในปี 2567 โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางทหารมากขึ้น แต่ปรับลดงบประมาณด้านอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคมในอีกหลายปีข้างหน้า
-- สเปนและโปรตุเกสประสบปัญหาไฟดับเป็นวงกว้างเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) และส่งผลกระทบต่อการขนส่งในภาคสาธารณะ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่เที่ยวบินได้ถูกเลื่อนออกไป
นอกจากนี้ ปัญหาไฟดับดังกล่าวทำให้ไฟจราจรหยุดทำงาน และกระทบต่อเครือข่ายการขนส่ง ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนกระแสไฟฟ้า, ประชาชนติดค้างในระบบรถไฟใต้ดินและในลิฟต์
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ (29 เม.ย.) ได้แก่ สิงคโปร์เปิดเผยอัตราว่างงานไตรมาส 1/2568, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากสถาบัน GfK และสหรัฐฯ เปิดเผยราคาบ้านเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค.