มาเลเซียตัดสินใจเลื่อนการจัดเก็บภาษีการค้าและการบริการออกไปจากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือธุรกิจในประเทศ โดยเฉพาะบรรดาผู้ผลิตที่กังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ กำหนดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากมาเลเซียในอัตรา 24% ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ กังวลว่าจะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นอีกจากปัจจุบันที่สูงอยู่แล้ว รัฐบาลมาเลเซียจึงตัดสินใจชะลอการเก็บภาษีใหม่ออกไปก่อนเพื่อลดแรงกดดันต่อภาคธุรกิจท้องถิ่น
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การตัดสินใจเลื่อนการเก็บภาษีของรัฐบาลมาเลเซียจะช่วยคลายความกังวลให้บริษัทต่าง ๆ และถึงแม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมาเลเซียไม่สามารถเก็บภาษีเพิ่มขึ้นได้ตามที่คาดหวัง แต่เชื่อว่า เรื่องที่น่ากังวลกว่าการคลังของรัฐบาลในเวลานี้คือผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่จะมีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย
ทั้งนี้ มาเลเซียหวังจะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในช่วงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งในระหว่างนี้ ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษี 10% จากสินค้าจากมาเลเซียและประเทศคู่ค้าอื่น ๆ