ผลสำรวจของสมาพันธ์ค้าปลีกอังกฤษ (British Retail Consortium - BRC) บ่งชี้ว่า ราคาอาหารในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากบรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตถูกกดดันจากการขึ้นภาษีและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ในบรรดาภาคธุรกิจนั้น ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากนโยบายงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลพรรคแรงงานเมื่อเดือนต.ค. ซึ่งประกอบด้วยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 6.7% และการเพิ่มภาษีเงินเดือนรวม 2.6 หมื่นล้านปอนด์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนนี้
BRC ระบุว่า ราคาอาหารในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2567 โดยสินค้าทั่วไปอย่างขนมปัง เนื้อ และปลา ต่างก็มีราคาแพงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อรายปีของหมวดอาหารพุ่งแตะ 2.6% สูงสุดในรอบ 11 เดือน
ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อครัวเรือนมากขึ้น และตอกย้ำความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงเป็นความท้าทายสำหรับธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แม้ว่าราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว ราคาสินค้าในร้านค้าทุกประเภทลดลงเพียงเล็กน้อยแค่ 0.1% เท่านั้น
ผลสำรวจของ BRC อาจทำให้ BOE ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้ผู้ค้าปลีกหลายรายเลือกที่จะขึ้นราคาสินค้าแทนการรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยตนเอง
แม้หลายฝ่ายคาดว่า BOE จะลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่บางรายเตือนว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นอาจทำให้ประชาชนเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังวิกฤตค่าครองชีพที่ผ่านมา ซึ่งการขึ้นราคาสินค้าอาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความรู้สึกของผู้บริโภคและการคาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคต