สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชู ไห่ผิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจ.พี. มอร์แกน ไชน่า กล่าวว่า ไม่มีแบงก์ใดที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ถึง 30% ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กลาง
ด้านจาง ตีเหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโนมูระ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น เคลื่อนตัวเหนือระดับพื้นฐานที่ถูกยกเลิกไปในครั้งนี้ เนื่องจากแรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารต่างๆยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของตนเอง
เหยอ ตัน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจที่มีชื่อเสียง กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลดีต่อวิสาหกิจขนาดใหญ่ แต่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจะไม่ได้รับผลประโยชน์เท่าไรนัก
เหยอกล่าวต่อไปว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น อิงกับสินเชื่อของวิสาหกิจหรือส่วนบุคคล ดังนั้น ในการดำเนินการที่แท้จริงแล้ว วิสาหกิจขนาดใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลจะได้รับเงินกู้อัตราดอกเบี้ยถูกได้สะดวกยิ่งขึ้น
การประกาศของธนาคารกลางจีนไม่ได้พูดถึงเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งธนาคารอาจจะเสนอเงินกู้พร้อมค่าประกันสูงสุด 10% ที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพื้นฐาน
ผู้เชี่ยวชาญของเจ.พี. มอร์แกน กล่าวเพิ่มเติมว่า เราคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าเพื่อเปิดเสรีอัตราดอกเบี้ยในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ด้วยการขยายขอบเขตของค่าประกันที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกลาง ซึ่งบางทีธนาคารกลางจีนอาจจะเริ่มด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวจำนวนมาก
สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารกลางควรที่จะยกเลิกกฎเกณฑ์เรื่องการปล่อยกู้ของธนาคาร ยกตัวอย่างเช่น โควต้าเงินกู้และข้อกำหนดเรื่องการปล่อยกู้เป็นรายภาคธุรกิจ และจัดตั้งขอบเขตของผลตอบแทนบนพื้นฐานของตลาด ด้วยเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงไปจากมาตรการเชิงปริมาณไปสู่มาตรการบนพื้นฐานของราคาของกลไกนโยบายการเงิน