ธนาคารกลางจีนดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบธนาคารทั้งหมด 1.1 พันล้านหยวน (180 ล้านดอลลาร์) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 3.7 หมื่นล้านหยวนในสัปดาห์ก่อนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารผ่านทางการทำธุรกรรมการซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 14 วัน ในวงเงิน 1 หมื่นล้านหยวนในวันนี้
แถลงการณ์ของธนาคารระบุว่า ผลตอบแทนของ reverse repo ดังกล่าวอยู่ที่ 4.10% ขณะที่พันธบัตรของธนาคารกลางในวงเงิน 1 แสนล้านหยวน และ reverse repo ในวงเงิน 3.6 หมื่นล้านหยวนจะครบกำหนดไถ่ถอนในสัปดาห์นี้ คิดเป็นเม็ดเงินอัดฉีดสุทธิ 6.4 หมื่นล้านหยวน
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนได้ต่ออายุพันธบัตรอายุ 3 ปีในวงเงิน 8.51 หมื่นล้านหยวนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมทั้งการทำ reverse repo อายุ 7 วันในวงเงิน 1 หมื่นล้านหยวน คิดเป็นตัวเลขการดูดซับสภาพคล่องสุทธิ 7.51 หมื่นล้านหยวน
ตัวเลขดังกล่าว เมื่อรวมกับเม็ดเงินอัดฉีด 1 หมื่นล้านหยวนในวันนี้ ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบลดลงสุทธิ 1.1 พันล้านหยวน
นายอี หยงเจี้ยน นักวิเคราะห์การเงินของแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์ กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะยังคงนโยบายการเงินไว้เช่นเดิมในปีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงของราคาอสังหาริมทรัพย์และควบคุมความเสี่ยงจากหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งระบบธนาคารเงา
ทั้งนี้ ต้นทุนเงินกู้อินเตอร์แบงก์ในระยะสั้นของจีนเคลื่อนไหวในทิศทางแตกต่างกันในวันนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืน Shanghai Interbank Offered Rate (Shibor) ลดลง 0.47% มาอยู่ที่ 2.97% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Shibor อายุ 1 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ 3.49% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Shibor อายุ 2 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ 3.8% สำนักข่าวซินหัวรายงาน