นายอามาริให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “การปรับลดภาษีนิติบุคคลนับเป็นหนึ่งในหลายทางเลือกที่จะช่วยรับมือกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการขาย เราจะศึกษาเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าวโดยพิจารณาร่วมกับความสามารถด้านการคลังของเรา"
นอกจากนี้ เขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้าง “วงจรที่เหมาะสม" ซึ่งการเติบโตด้านผลกำไรของบริษัทเอกชนจะนำไปสู่การขยายตัวในด้านการผลิตและค่าจ้างแรงงาน พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงการคลังซึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ยอมให้ความร่วมมือด้วย
นายอามาริได้แสดงความลังเลในการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากญี่ปุ่นขาดแหล่งทรัพยากรทางการเงินที่จะช่วยชดเชยรายได้จากภาษีซึ่งจะลดลงต่อไป แต่ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาก็แสดงให้เห็นว่า นายอามาริได้เดินหน้าเตรียมความพร้อมสำหรับแผนการปรับขึ้นภาษีในปีหน้า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น จะตัดสินใจขั้นครั้งสุดท้ายในเรื่องดังกล่าว
คาดว่านายอาเบะมีแนวโน้มจะประกาศการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นภาษีการขายช่วงแรกหรือไม่
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นวางแผนปรับขึ้นภาษีการขาย 2 ช่วง โดยตั้งเป้าการเก็บภาษีดังกล่าวที่ระดับ 10% ภายในสิ้นเดือนต.ค.ปี 2558 เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการเข้าสู่สังคมของประชากรสูงวัยของญี่ปุ่น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน