ข้อมูลของทางการแสดงให้เห็นว่า การขนส่งทางรถไฟรายวันของจีนในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี และ 2.2% เมื่อเทียบรายเดือน โดยมีปริมาณสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย. และอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบเป็นรายปีแตะระดับสูงสุดนับแต่ปี 2555
นอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของคาร์โกขนส่งสินค้าทางรถไฟแล้ว ดัชนีชี้วัดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการบริโภคพลังงานและเงินกู้ภาคเอกชนในระยะกลางและระยะยาว ต่างก็มีการขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้
การบริโภคพลังงานในภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 12% เมื่อเทียบรายปีในเดือนส.ค. และขยายตัว 3.9% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ในขณะที่ยอดเงินกู้ภาคเอกชนในระยะกลางและระยะยาวเพิ่มขึ้น 2.312 แสนล้านหยวนในเดือนส.ค.
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น สถาบันต่างๆก็ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนด้วย
นายกวน ฉิงหยู นักวิจัยของหมินเซิง ซิเคียวริตี้ส์ คาดว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีจีนจะแตะที่ 7.6-7.6% ในไตรมาสที่ 3 เมื่อพิจารณาจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวรวดเร็วขึ้นในเดือนส.ค.
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทไชน่า อินเตอร์เนชันแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์จีดีพีในไตรมาส 3 ของจีน สู่ระดับ 7.8% จากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 7.6% และปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวตลอดทั้งปีเป็น 7.6% จากเดิมที่ระดับ 7.5%
สถาบันต่างชาติหลายแห่งก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวของจีดีพีจีนเป็น 7.7% จากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.6%
นายฉู หงปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซี ไชน่ากล่าวว่า การปรับตัวที่ดีขึ้นของดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจในเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะแตะจุดต่ำสุดแล้วในช่วงไตรมาส 2 จะและเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน