นางเพโลซีกล่าวในงานแถลงข่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่หน่วยงานรัฐบาลได้ปิดดำเนินงาน" พร้อมกับเสริมว่า “ดิฉันวิตกว่า พรรครีพับลิกันกำลังถ่วงเวลาเพื่อโยงเรื่องการปิดหน่วยงานรัฐบาลเข้ากับการผิดนัดชำระหนี้และความน่าเชื่อถือของสหรัฐ"
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า เพดานหนี้ของสหรัฐจะชนเพดานในวันที่ 17 ต.ค.นี้ พร้อมกับเตือนในรายงานว่า “ปัญหาทางตันเรื่องเพดานหนี้จะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงไม่เฉพาะต่อตลาดการเงินเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงการสร้างงาน การใช้จ่ายของผู้บริโภค และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ"
นางเพโลซีระบุว่า พรรครีพับลีกันไม่มีทางเลือกมากนักเนื่องจากกฎหมายกำหนดให้เป็นการตัดสินใจเพียงครั้งเดียว และหากเลือกอีกทางหนึ่ง ก็จะเกิดความไม่สมดุล และควรจะหยุดเล่นเกมได้แล้ว
นอกจากนี้ นางเพโลซียังเตือนพรรครีพับลีกันว่า อย่าทำผิดซ้ำรอยความขัดแย้งในปี 2554 โดยไม่จำเป็น ซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตเพดานหนี้ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว และสหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ดี พรรครีพับลิกันยืนยันว่า งบประมาณรัฐบาลซึ่งเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.ควรจะผูกผันกับการชะลอใช้กฎหมายประกันสุขภาพ หรือที่เรียกว่าโอบามาแคร์
นางบาร์บารา ลี สมาชิกพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นคณะกรรมการด้านการจัดสรรในทำเนียบขาว กล่าวว่า “โอบามาแคร์เป็นกฎหมายที่ศาลสูงสุดได้อนุมัติไปแล้ว คุณไม่สามารถเจรจาต่อรองเกี่ยวกับกฎหมายนี้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน