นายอาซิม จิฮัด โฆษกกระทรวงน้ำมันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การส่งออกในเดือนก.ย.ลดลงโดยเฉลี่ย 500,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งการส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 2.579 ล้านบาร์เรล/วัน
โฆษกระบุว่าการลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการซ่อมบำรุงและการขยายการดำเนินงานที่โรงงานน้ำมันหลายแห่งในทางตอนใต้ของอิรัก
“เราคาดว่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนต.ค.จะช่วยชดเชยการส่งออกที่ลดลงในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นผลจากการซ่อมบำรุงและการขยายการดำเนินงานในโรงงานทางตอนใต้" นายจิฮัดกล่าว
เขากล่าวเสริมว่า การขยายการดำเนินงานดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนต.ค.นั้น จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการส่งออกของอิรักจากเมืองบาสร่าให้มาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 4.5 ล้านบาร์เรล/วัน
กระทรวงน้ำมันระบุว่า อิรักส่งออกน้ำมัน 1.821 ล้านบาร์เรลผ่านทางท่าเรือของเมืองบาสร่า ทางตอนใต้ของประเทศ และมีการส่งออก 244,000 บาร์เรลทางท่าเรือเคย์ฮันของตุรกีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขณะที่ส่งออก 5,000 บาร์เรลต่อวันโดยทางรถบรรทุกไปยังจอร์แดน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอิรักส่วนใหญ่พึ่งพารายได้จากการขายน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 95% ของงบประมาณประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน