เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 ลงเหลือ 7.5% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 8.3% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2557 ลงเหลือ 7.7% จาก 8%
"การขยายตัวของจีนน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายของทางการที่ 7.5% ในปีนี้ แนวโน้มระยะสั้นกำลังปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าผลผลิตจะแข็งแกร่งขึ้นอีกในไตรมาส 3" เวิลด์แบงก์ระบุในรายงาน
ธนาคารโลกระบุว่า ความเสี่ยงที่เกิดจากหนี้รัฐบาลท้องถิ่นและภาคธนาคารเงาจะเป็นปัญาหาท้าทายเศรษฐกิจจีน
ขณะที่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้เป็น 7.6% จากระดับ 8.2% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุในรายงานซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคารว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนา โดยไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอลงแตะ 7.6% ในปี 2556 และ 7.3% ในปี 2557
จู ไห่ปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่เจพี มอร์แกน ประเทศจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนจะดีดตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 3 แต่แรงกระตุ้นการขยายตัวอาจอ่อนแรงลงหลังจากนั้น โดยวาณิชธนกิจชื่อดังเตือนเกี่ยวกับเสถียรภาพของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน
เจพี มอร์แกนระบุว่า เศรษฐกิจของจีนอาจฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ และคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวแตะ 7.3% ในปี 2557
บางอุตสาหกรรมของจีนยังคงเผชิญปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน ซึ่งธนาคารชี้ว่าการแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะมีผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมกับเสริมว่า รัฐบาลจีนได้เน้นย้ำว่าจะไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินในอนาคตอันใกล้ ซึ่งหมายความการขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอลงจะเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจของประเทศ