นายมูซาวีกล่าวว่า “จากการปรับปรุงและการสร้างท่าเทียบเรือใหม่ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่ช่วยขนส่งขึ้นและลง กำลังการส่งออกน้ำมันของประเทศเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล/ ต่อวัน"
เขากล่าวว่าสิ่งอำนวยการจัดเก็บน้ำมันดิบใหม่ 4 อย่างนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้การได้เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า จะเพิ่มกำลังการจัดเก็บของเกาะคาร์กของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียถึง 28 ล้านบาร์เรล/ ต่อวัน
ในวันที่ 24 ส.ค. นายบิจัน นัมดาร์ ซันกาเนห์ รัฐมนตรีด้านน้ำมันของอิหร่าน กล่าวว่าสาธารณรัฐอิสลามจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อทำให้ตลาดน้ำมันกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยการกระตุ้นการส่งออก
เว็บไซต์ชาน่ารายงานโดยอ้างคำพูดของนายซันกาเนห์ว่า “แม้ว่าเรากำลังเผชิญความท้าทาย การส่งออกน้ำมันของอิหร่านจะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้"
นายซันกาเนห์กล่าวว่า “ปริมาณและกำลังการผลิตเป็นปัจจัยแรกในการกระตุ้นพลังของประเทศต่างๆ ในตลาดโลก" และเสริมว่ากำลังการผลิตน้ำมันของอิหร่านจะเพิ่มขึ้น 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน
รัฐมนตรีน้ำมันเผยว่าภาคพลังงานของอิหร่านเปิดกว้างต่อบริษัทที่อยากลงทุนในโครงการการพัฒนาของอิหร่าน
“ไม่มีขีดจำกัดใดเรื่องผลกระทบนั้นและเราจะเปิดตลาดภายในประเทศมากขึ้น แล้วจะมีศักยภาพพอจะชนะควมร่วมมือระหว่างนักลงทุนและผู้ผลิตในบทใหม่ของการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเลียม"
เขายังกล่าวอีกว่าแผนในระยะสั้นประกอบด้วย การทำให้น้ำมันอิหร่านกลับมาในตลาดโลก และเสริมว่า “การที่คู่แข่งอิหร่านเสียส่วนแบ่งในตลาดเป็นหนึ่งในงานสำคัญลำดับแรกของผม"
การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกกรณีโครงการนิวเคลียร์ที่ก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง ส่งผลเสียหายต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซและลดการส่งออกน้ำมันอิหร่านครึ่งหนึ่งจาก 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นายซันกาเนห์กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน “แบกรับการคว่ำบาตรที่รุนแรงนี้เอาไว้" และสาธารณรัฐอิสลามต้องใช้ “การทูตน้ำมัน" เพื่อจัดการกับสถานการณ์นี้
คณะบริหารใหม่ของอิหร่านให้คำมั่นว่าจะใช้ “วิธีเชิงโครงสร้าง" เพื่อแก้ไขประเด็นความขัดแย้งเรื่องนิวเคลียร์
นายฮัสซัน รูฮานี ผู้ยึดนโยบายสายกลางที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ให้คำมั่นว่าจะยุติโครงการนิวเคลียร์ของประเทศร่วมกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี นายรูฮานีเน้นว่าเขาจะไม่ลดการปกป้องสิทธิเรื่องนิวเคลียร์ของพลเมือง สำนักข่าวซินหัวรายงาน