นายอาโสะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังการประชุมวันแรกในวอชิงตันว่า เขาได้อธิบายกับที่ประชุมจี 20 ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาญี่ปุ่นได้ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีการขายของประเทศเป็น 8% จากระดับปัจจุบันที่ 5% ในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ตามกำหนดการที่ได้วางไว้
นายอาโสะ ซึ่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่งยังระบุด้วยว่า เขากล่าวในที่ประชุมว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงิน 6 ล้านล้านเยน ซึ่งรวมถึงการลดหย่อนภาษีจำนวน 1 ล้านล้านเยนให้กับภาคธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้การปรับขึ้นภาษีการขายสร้างภาระให้กับเศรษฐกิจ
การขึ้นภาษีถือเป็น "ก้าวใหญ่สู่การบรรลุเป้าหมายการปรับลดการขาดดุลทางการคลัง" เขากล่าว
ทั้งนี้ การขึ้นภาษีบริโภคมีจุดประสงค์เพื่อนำไปชดเชยค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางประชาสูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น โดยงบประมาณด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นนับว่าย่ำแย่ที่สุดในบรรดาประเทศอุตสาหกรรมรายใหญ่ ด้วยยอดหนี้สาธารณะสูงกว่า 200% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้ให้คำมั่นกับนานาประเทศว่าจะลดสัดส่วนยอดขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพีลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2558 จากระดับของปี 2553 โดยยอดขาดดุลในบัญชีหมายความว่ารัฐบาลจะไม่สามารถจัดสรรงบประมาณได้โดยที่ไม่มีการออกพันธบัตรเพิ่ม
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นรายหนึ่งเผยว่า นายอาโสะได้เรียกร้องนายแจ็ค ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐโดยตรง โดยขอให้สหรัฐแก้ปัญหาทางตันเกี่ยวกับงบประมาณให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เนื่องจากประเด็นดังกล่าวได้สร้างความไร้เสถียรภาพในตลาดการเงินทั่วโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน