"เจพีมอร์แกน" เผยขาดทุน 380 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3

ข่าวต่างประเทศ Friday October 11, 2013 20:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุนในไตรมาส 3 เป็นวงเงินสูงถึง 380 ล้านดอลลาร์ หรือ 17 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่บริษัทสามารถทำกำไรได้ 5.71 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.40 ดอลลาร์/หุ้น โดยสาเหตุที่ทำให้เจพีมอร์แกนขาดทุนในไตรมาส 3 ปีนี้มาจากการที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายเป็นจำนวน 7.2 พันล้านดอลาร์

ก่อนหน้านี้ นางมาริอันนา เลค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของเจพีมอร์แกนเปิดเผยกับนักลงทุนว่า รายได้จากการซื้อขายพันธบัตรและรายได้จากหุ้นของเจพีมอร์แกนในไตรมาส 3 ปีนี้ จะลดลงถึง 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เจพีมอร์แกน มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นแตะ 6.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากระดับ 4.96 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.21 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเจพี มอร์แกน ภายใต้การนำของเจมี ไดมอน ซีอีโอ สามารถทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศทบทวนเครดิตของธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ 6 แห่ง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะลดการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยธนาคารที่มีสิทธิถูกลดเครดิตประกอบด้วยโกลด์แมน แซคส์, เจพี มอร์แกน เชส, มอร์แกน สแตนลีย์ และ เวลส์ ฟาร์โก ขณะที่ธนาคารอีก 2 แห่งคือ แบงก์ ออฟ อเมริกา และ ซิตี้กรุ๊ป ถูกประเมินเกี่ยวกับแนวโน้มความไม่แน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ