นายจาค็อบ ลิว รมว.คลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า การที่สหรัฐต้องปิดหน่วยงานของรัฐเป็นเวลานานนับสัปดาห์และความเสี่ยงที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้นั้น อาจสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ แต่ก็คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะสามารถต้านทานวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้
"เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2554 เมื่อเรามีหนี้สินใกล้ชนเพดาน ซึ่งได้สร้างความเสียหายในระดับหนึ่ง แต่เศรษฐกิจของเรามีความยืดหยุ่นเพียงพอ ผมมั่นใจว่าเศรษฐกิจของเราจะสามารถฟื้นตัวได้"
"ก่อนหน้านี้เราได้เห็นต้นทุนการกู้ยืมของเราเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ซึ่งเรารู้ว่าจากเหตุการณ์ชัตดาวน์ว่าทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับความเสียหาย เราต้องสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะไม่เผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหม่ เรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก" นายลิวกล่าว
ทั้งนี้ นายลิวได้ตำหนิสมาชิกรีพับลิกันบางคนในสภาผู้แทนราษฎรที่มีส่วนทำให้ต้องมีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลและทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยกล่าวว่า "มีรีพับลิกันบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาผู้แทนราษฎรที่พยายามควบคุมทิศทางของความขัดแย้งครั้งนี้"
นอกจากนี้ นายลิวกล่าวว่า การลดการใช้จ่ายลงอย่างมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลางโดยอัตโนมัติ (sequestration) นั้น จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง พร้อมกับกล่าวว่า "ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า พวกท่านควรจะชดเชยผลที่ตามมาของการลดการใช้จ่ายครั้งนี้ ด้วยโครงการด้านสิทธิประโยชน์และการปฏิรูปภาษีที่สมเหตุสมผลและมีความสมดุล เพื่อให้เราเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องในอนาคต" สำนักข่าวซินหัวรายงาน