IMF เรียกร้องญี่ปุ่นปฏิรูปการคลังที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 29, 2013 18:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอานูป ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นดำเนินมาตรการที่จะส่งเสริมการฟื้นฟูทางการคลังโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สินที่พอกพูนขึ้นของญี่ปุ่น

นายซิงห์กล่าวสุนทรพจน์ที่โตเกียวว่า “เมื่อพิจารณาถึงสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่สูงมากของญี่ปุ่นแล้ว การเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น"

นายซิงห์ได้กล่าวชื่นชมการตัดสินใจเมื่อต้นเดือนนี้ของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ในการปรับขึ้นอัตราภาษีขายเป็น 8% จากระดับปัจจุบันที่ 5% ในเดือนเม.ย.ตามตารางที่กำหนดไว้ โดยระบุว่า “เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง"

“แต่การลดลงของรายได้สุทธิของภาคครัวเรือน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับอัตราภาษีที่สูงขึ้นนั้น จะก่อความเสี่ยงต่อการปรับเปลี่ยนที่จำเป็นสู่การขยายตัวที่มีแรงผลักดันจากอุปสงค์ของภาคเอกชน" เขากล่าว โดยเสริมว่า "สิ่งสำคัญจะอยู่ที่การหาจุดสมดุลที่เหมาะสมโดยการปฏิรูปทางการคลังที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเท่าที่จะเป็นไปได้"

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟกล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น "มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยมีแรงผลักดันจากกการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่, การบริโภคภาคเอกชนที่สดใส และการขยายตัวด้านการส่งออก"

นายซิงห์ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ได้รับแรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจของนายอาเบะซึ่งรู้จักกันในชื่อ “อาเบะโนมิคส์" ซึ่งประกอบไปด้วยการผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุก, การใช้จ่ายสาธารณะจำนวนมหาศาล และกลยุทธ์การขยายตัวที่มีจุดประสงค์กระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน

“การดำเนินนโยบายจนถึงขณะนี้ ได้ส่งผลให้ญี่ปุ่นถูกจับตามองจากทั่วโลก" นายซิงห์กล่าว

เขาระบุว่า “ผมประเมินในเบื้องต้นว่า ในช่วงแรก นโยบายเศรษฐกิจแบบอาเบะโนมิคส์ได้ดำเนินไปด้วยดีและมีสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจกำลังมีการฟื้นตัว โดยได้รับแรงผลักดันจากนโยบายต่างๆ" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ