ภาคการส่งออกซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 7.3% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 5.051 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. และทำลายสถิติก่อนหน้าที่ 4.895 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. 2554
ยอดการส่งออกที่ทำสถิติใหม่นั้นเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับสมาร์ทโฟน ชิป และรถยนต์ ซึ่งผลิตโดยบริษัทของเกาหลีใต้
ในเดือนต.ค. การส่งออกของภาคเซมิคอนดัคเตอร์ดีดตัวขึ้นแตะ 5.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 3.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. 2554 โดยการส่งออกอุปกรณ์โทรคมนาคมซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน ขยายตัวจาก 2.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 3.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่การส่งออกเหล็กกล้า เรือ และผลิตภัณฑ์น้ำมันปรับตัวลง เนื่องจากการขยายตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ได้ชะลอตัวลง
ทั้งนี้ การส่งออกรถยนต์เพิ่มสูงขึ้นเป็นเพราะอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นจากสหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในช่วงไตรมาส 2 จากระดับ 1.1% ของไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปปรับตัวขึ้นแตะ 0.3% ในไตรมาสที่ 2 จากที่หดตัว 0.2% ในไตรมาสที่ 1
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐอเมริกาในเดือนต.ค. ขยายตัว 23.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยังคงปรับตัวตามแนวโน้มขาขึ้น หลังจากเพิ่มขึ้น 8.3% และ 9.1% ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 2 ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน การส่งออกไปยังประเทศจีนก็ปรับตัวขึ้น 5.5% จากปีก่อนหน้า ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 9.4% และ 12.5% ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 2
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังญี่ปุ่นยังคงปรับตัวลง เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้กลุ่มผู้ส่งออกเกาหลีใต้เผชิญกับการแข่งขันด้านราคาในตลาดต่างประเทศ โดยมูลค่าการส่งออกไปยังญี่ปุ่นในเดือนต.ค. ลดลง 8.8% จากปีก่อนหน้า หลังจากปรับตัวลง 1.5% และ 13.3% ในเดือนก.ย. และเดือนส.ค. ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน