นายลิวกล่าวในบทความซึ่งตีพิมพ์ทางเว็บไซต์หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัลว่า ทั้งสหรัฐอเมริกาและเอเชียถือเป็น “เสาหลักสำคัญ" ของเศรษฐกิจโลก และนโยบายของมหาอำนาจทั้งสองก็มี “ผลกระทบอย่างมาก" ต่อกันและกัน
รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวก่อนที่จะเดินทางมาเยือนเอเชียในสัปดาห์นี้ว่า “นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินทั่วโลก เศรฐกิจที่ขาดสมดุลระหว่างสหรัฐและเอเชียก็ได้ปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การปรับฐานส่วนหนึ่งเกิดจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในปัจจุบันของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้น กระบวนการปรับสมดุลของเศรษฐกิจโลกจึงยังไม่สมบูรณ์"
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า นายลิวจะเดินทางเยือนญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และจีนในสัปดาห์นี้เพื่อประชุมร่วมกับรัฐมนตรีคลังของประเทศต่างๆเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐและเอเชีย
เขากล่าวว่า จุดประสงค์หนึ่งของการเดินทางมาเอเชียครั้งนี้ก็คือ การกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มอุปสงค์ และนำเสนอผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกันจากเศรษฐกิจโลก
นายลิวยังแสดงความเห็นว่า จีนอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเชิงระบบจากเดิมที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกทรัพยากร มาสู่การบริโภคภายในประเทศ โดยกล่าวว่า “ความพยายามเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความยั่งยืนแก่การขยายตัวที่แข็งแกร่งในระยะกลาง"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึง ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ลดลงของจีน, ความมุ่งมั่นในการทำสนธิสัญญาด้านการลงทุนทวิภาคีที่มีมาตรฐานสูงกับสหรัฐ และเขตโครงการนำร่อง “เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้" ซึ่งเป็นเสมือนสัญญาณของความก้าวหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน
ในขณะเดียวกัน นายลิวได้เน้นย้ำความสำคัญของการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง และการปรับเปลี่ยนด้านการคลังอย่างระมัดระวังในญี่ปุ่นเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน
เขาเสริมว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีการสร้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศได้ลดการขาดดุลลงครึ่งหนึ่งภายใน 4 ปี เมื่อคิดเป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่สหรัฐก็ยังต้องดำเนินการในเรื่องต่างๆอีกมาก
รัฐมนตรีคลังทิ้งท้ายว่า สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องกระชับความสัมพันธ์กับเอเชียอย่างแน่นแฟ้น เพราะเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตมากที่สุดในโลก และการเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจเพิ่มเติมของแต่ละประเทศก็จะช่วยปูทางสำหรับเศรษฐกิจโลกที่มแข็งแกร่ง, มีความสมดุลและยั่งยืน สำนักข่าวซินหัวรายงาน