World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 14, 2013 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าไตรมาส 2 ซึ่งขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.8%

--ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.50% ในการประชุมวันนี้ สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

--กระทรวงการคลังสหรัฐเผยรัฐบาลสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณ 9.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลงประมาณ 24% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน

--นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไปนั้น เตรียมที่จะชี้แจงต่อสภาคองเกรสว่าการผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้

นางเยลเลนระบุในร่างถ้อยแถลงต่อคณะกรรมการด้านการธนาคาร, ที่อยู่อาศัยและกิจการในเขตเมืองของวุฒิสภา ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ระบุว่า เฟด “กำลังใช้เครื่องมือด้านนโยบายการเงินเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น"

--สภาผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจแห่งเยอรมนีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 2556 ขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 0.3% สู่ระดับ 0.4% และคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.6% ในปี 2557

ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัว 0.5% และปีหน้า 1.7%

--แกลลัพโพลระบุว่า ประชาชนชาวสหรัฐมีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤติชัตดาวน์บางส่วนอีกทั้งปัญหาเพดานหนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของแกลลัพปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 จุด แตะ -27 จุดในสัปดาห์ก่อน และได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ -39 เมื่อเกิดวิกฤติชัตดาวน์ขึ้นกลางเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามดัชนีดังกล่าวยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่า -15 จุดในช่วงกลางเดือนก.ย. ก่อนที่ความเชื่อมั่นได้ทรุดตัวลง

--ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศสำหรับปี 2557 สู่ระดับ 2.8% แต่นักเศรษศาสตร์หลายรายเชื่อว่าแบงก์ชาติอังกฤษจะไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้

--นายจอห์น เฟลมี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกันชี้ว่า การส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจสร้างผลกระทบบ้างต่อราคาก๊าซธรรมชาติสหรัฐ แต่ก็ไม่น่าจะสูงมากเหมือนที่อุตสาหกรรมสารเคมีหวั่นวิตก

--สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาส 3 จากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 0.7% เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังไม่สามารถขยายตัวได้เพียงพอที่จะช่วยชดเชยการส่งออกที่ซบเซา

--นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมที่จะรับมือกับความผันผวนของตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งอาจจะเกิดจากแรงกระตุ้นจากการเก็งกำไรเพื่อการทำกำไรในระยะสั้น

--สำนักงานสถิติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสในช่วงไตรมาส 3/2556 หดตัวลง 0.1% หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในช่วงไตรมาส 2

--ทางการฝรั่งเศสรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสในเดือนต.ค.ลดลงเล็กน้อย 0.1% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากราคาพลังงานร่วงลง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค. แต่ชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 0.9% ในเดือนส.ค.และก.ย.

--กระทรวงพาณิชย์อินเดียเผยเงินเฟ้อเดือนต.ค.ขยายตัว 7% จากปีก่อน ซึ่งสูงขึ้นมากกว่าการประเมินของนักเศรษฐศาสตร์ และเมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่ขยายตัวที่ระดับ 6.46%

--ธนาคารกลางฝรั่งเศสเผย ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของฝรั่งเศสในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. อันเนื่องมาจากยอดขาดดุลการค้าที่ย่ำแย่ลง

ข้อมูลของธนาคารระบุว่า ฝรั่งเศสขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 3.9 พันล้านยูโรในเดือนก.ย. เทียบกับที่ขาดดุล 3.6 พันล้านยูโรในเดือนส.ค.

--กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากการประเมินเบื้องต้นว่าขยายตัวที่ 1.5%

กระทรวงระบุว่า การปรับลดลงดังกล่าว เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ยา อาหาร และยาสูบที่ซบเซา ซึ่งยังไม่มีข้อมูลดังกล่าวเมื่อมีการประเมินผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเบื้องต้นในวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

--คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านราคาสินค้าของประเทศ ประกาศลดราคามาตรฐานของน้ำมันเบนซิลและน้ำมันดีเซลในวันนี้ โดยลดลงเหลือ 160 และ 155 หยวน/ตันตามลำดับ ราคาของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลในจีนถูกควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยรัฐบาล ซึ่งปรับราคาเพดานสำหรับราคาค้าปลีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ