นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้ระบุในคอลัมน์ล่าสุดของหนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า แม้ว่าเพิ่งจะมีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อดูจากมาตรฐานที่ผ่านๆมา ซึ่งมักจะไม่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อและระดับค่าจ้างเฉลี่ยของชาวสหรัฐ
ครุกแมน เปิดเผยว่า เกือบ 60% ของพนักงานที่ได้รับค้าจ้างต่ำสุดนั้น อยู่ในภาคธุรกิจบริการอาหารหรือไม่ก็การขาย และค่าจ้างของพนักงานในภาคการค้าปลีกซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตามอัตราเงินเฟ้อนั้น ร่วงลงเกือบ 30% นับตั้งแต่ปี 2516
ครุกแมน กล่าวว่า "เรามีหลักฐานพิสูจน์มากมายที่บ่งชี้ถึงผลลัพธ์จากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ และหลักฐานดังกล่าวต่างบ่งชี้ไปในทิศทางที่ดี โดยการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นมีผลกระทบเชิงลบเพียงเล็กน้อยต่อการจ้างงาน ขณะที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับพนักงานได้อย่างมีนัยสำคัญ"
นายครุกแมน กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางสถาบันนโยบายเพื่อเศรษฐกิจ (EPI) คาดการณ์ว่า การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 10.10 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 7.25 ดอลลาร์ในปัจจุบันจะส่งผลดีต่อพนักงานถึง 30 ล้านคน
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้ กล่าวเสริมว่า การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นคาดว่า จะช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชาวอเมริกัน และอาจจะเป็นไปได้ในแง่ของการเมือง หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต นักการเมืองอิสระ และสมาชิกรีพับริกันส์ส่วนใหญ่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน