"เราคาดว่าจีดีพีอังกฤษจะยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจะช่วยกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในภาคครัวเรือนให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจอังกฤษไม่ควรพึ่งพาผู้บริโภคและตลาดที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะมุ่งเน้นในการสนับสนุนความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมส่งออก เพื่อให้เกิดความสมดุล" นายจอห์น ลองเวิร์ธ ผู้อำนวยการ BCC กล่าว
ในรายงานครั้งนี้ BCC คาดว่า จำนวนคนว่างงานของอังกฤษจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2,400 ล้านคนในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ ไตรมาส 3 ปีนี้ จากระดับ 2.466 ล้านคน และคาดว่าอัตราว่างงานในช่วงเวลาดังกล่าวจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 7.6%
นอกจากนี้ BCC คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.75% ในไตรมาส 4 ปี 2558 จากระดับต่ำสุดในปัจจุบันที่ 0.5% และคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็น 1% ในไตรมาส 4 ปี 2559 แต่ก็คาดว่าธนาคารกลางจะยังคงขนาดโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2559
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ประกาศขยายวงเงิน QE อีก 5 หมื่นล้านปอนด์เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้วงเงินรวมของโครงการ QE ที่ธนาคารกลางได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 เพิ่มเป็น 3.75 แสนล้านปอนด์ โดยธนาคารกลางอังกฤษได้ตัดสินใจนำมาตรการ QE มาใช้ผ่านทางการพิมพ์ธนบัตรใหม่เพื่อใช้ซื้อสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ด้วยเป้าหมายที่จะเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคารและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ