คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น โดยเฟดจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า
--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินในประเทศระยะยาวของอังกฤษ (IDRs) ไว้ที่ระดับ AA+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่ที่มีการทบทวนครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมี.ค.ปีนี้
--วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 64 ต่อ 36 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณระยะเวลา 2 ปี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนเจรจาของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงงบประมาณดังกล่าวและเสนอต่อให้กับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐพิจารณาอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการในอีก 2 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ วุฒิสภาจะยื่นร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบฉบับนี้ต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
--รายงานจากสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวในขณะนี้ แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยเดิมและปัจจัยใหม่ๆที่อาจจะฉุดรั้งการขยายตัว พร้อมกับระบุว่า การถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางในประเทศรายใหญ่ จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
--ธนาคารกลางสเปนเผยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสเปนพุ่งแตะระดับ 12.998% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ
รายงานระบุว่า ยอดหนี้สินที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม NPL ในระบบธนาคารของสเปนแตะที่ 1.90971 แสนล้านยูโร (2.62767 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.141 พันล้านยูโรจากเดือนก.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่สัดส่วนหนี้เสียของสเปนพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบมากกว่า 50 ปี
--ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เริ่มต้นการประชุมนโยบายเป็นระยะเวลา 2 วันในวันนี้ โดยคาดว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะหารือกันในเรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและตลาดการเงินโลกจากการตัดสินใจปรับลดขนาดของมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
--นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่นเปิดเผยผ่านทางรายการโทรทัศน์วันนี้ว่า เขาจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มรอบ 2 ตามกำหนดในเดือนต.ค. 2558 หรือไม่ หลังประเมินภาวะเศรษฐกิจในช่วงก.ค.-ก.ย. 2557
--นายมิเชล บาร์นิเยร์ สมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า บรรดารัฐมนตรีคลังในสหภาพยุโรป (อียู) ได้บรรลุข้อตกลงว่าด้วยการกำหนดกลไกที่จะปิดธนาคารที่ล้มละลาย
กลไกการแก้ไขปัญหาที่เป็นหนึ่งเดียว (SRM) ประกอบกับกลไกการกำกับดูแลที่เป็นหนึ่งเดียว (SSM) และกลไกการรับประกันเงินฝากที่เป็นหนึ่งเดียว จะเป็นหลักสำคัญ 3 ประการของสหภาพการธนาคารที่มีการวางแผนไว้ของยูโรโซน เพื่อลด “วงจรเสี่ยง" ระหว่างวิกฤตหนี้และวิกฤตการธนาคาร และจะสร้างความมั่นใจว่าผู้เสียภาษีจะไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการช่วยเหลือภาคธนาคารในอนาคต