ผู้นำพม่า กล่าวว่า กระบวนการปฏิรูปของประเทศมีความแข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้การทำงานร่วมกันของภาครัฐในหลายประเด็นเป็นไปด้วยดี
หนึ่งในความสำเร็จเหล่านี้ก็คือ การจัดมหกรรมเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 27 ประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาประจำภูมิภาคครั้งแรกที่จัดขึ้นในพม่าในรอบ 44 ปี
ปธน.พม่ากล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศว่า กลุ่มทางการเมืองสามารถมีส่วนร่วมในระบอบการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2551 ได้อย่างมีนัยสำคัญภายในระยะเวลาไม่นานนัก
ผู้นำพม่ายังได้เรียกร้องให้มีการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความตื่นตัวทางการเมืองโดยส่งเสริมการมีส่วนร่วม และสิทธิ์ทางการเมืองของประชาชน
ในช่วง 1 ปีที่ผ่าน พรรคการเมืองต่างเคลื่อนไหว เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นระบบ
คณะกรรมาธิการรัฐสภาเพื่อการศึกษาและแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รวบรวมความคิดเห็นจากสาธารณะชน และองค์กรต่างๆ ที่นอกเหนือไปจากพรรคการเมือง และพลเรือนแล้ว ทางกองทัพยังได้ยื่นข้อเสนอ และแสดงความคิดเห็นต่างๆแก่คณะกรรมาธิการ
ปธน.เน้นย้ำเป็นครั้งแรกว่า พรรคการเมืองใหญ่อย่าง พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ซึ่งนำโดยนางออง ซาน ซูจี และพรรคการเมืองอื่นๆยังจัดการประชุม และพบปะหารือเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างอิสระ และเป็นไปตามกฏระเบียบ ซึ่งให้เห็นว่า ระดับวุฒิภาวะทางการเมืองในพม่ามีการพัฒนามากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้นำพม่ายังให้ความสำคัญกับอิสรภาพในการแสดงความคิดเห็นเชิงบวกผ่านสื่อ และโซเชียลเน็ตเวิร์คด้วยเช่นกัน
พล.อ. อู เต็ง เส่งยืนกรานประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า "รัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องได้รับการปรับปรุงเป็นระยะๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางสังคม เศรษฐกิจ และประเทศ"
ผู้นำพม่ายังให้ความสำคัญกับความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อความปรองดองในชาติ ซึ่งเป็นรากฐานของกระบวนการสันติภายในประเทศ
ทั้งนี้ ผู้นำพม่าได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้นำทางการเมืองของประเทศ โดยกล่าวว่า เขาไม่ต้องการให้มีการจำกัดสิทธิ์ของพลเมืองในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศ และเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ และอำนาจอธิปไตยของประเทศ
พล.อ. อู เต็ง เส่ง สนับสนุนให้เลือกทำสิ่งที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง เพื่อให้ประสานความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ทางด้านการเจรจาอย่างสันติกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพม่านั้น ผู้นำพม่าหวังว่า การเจรจาทางการเมืองจะเริ่มขึ้น เมื่อการเจรจาต่อรองครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง
และในปี 2557 พม่าจะขึ้นทำหน้าที่ประธานกลุ่มอาเซียน พร้อมกับได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวพม่ารวมพลังกันเพื่อผลักดันให้การเป็นประธานอาเซียนปี 2557 ประสบผลสำเร็จ
ปธน.พม่าได้ปล่อยนักโทษทางการเมืองที่เหลืออยู่ทั้งหมดในช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้
เฟิง หยิงจิว จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน