นายหม่าระบุว่า ในปี 2557 เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะขยายตัวมากกว่าปีก่อน ซึ่งถ้ามองตามคาดการณ์นี้ อุปสงค์จากภายนอกที่ปรับตัวดีขึ้นจะหนุนการขยายตัวด้านการส่งออกของจีนในปีนี้
สำหรับภาคอุตสาหกรรมที่มีกำลังผลิตส่วนเกิน อาทิ เซลล์แสงอาทิตย์ ปูนซีเมนต์ และการต่อเรือนั้น เริ่มมีสภาวะอุปสงค์และอุปทานดีขึ้น
ขณะที่อุตสาหกรรมที่ขาดแคลนอุปทาน อาทิ การแพทย์ ทางรถไฟ พลังงานสีเขียว และการปกป้องสิ่งแวดล้อม จะสามารถดึงดูดเงินทุนจากเอกชนได้มากขึ้น เมื่อพิจารณาจากความพยายามของจีนในการลดการเข้าถึงอุตสาหกรรม
นายหม่ากล่าวว่า ความพยายามของรัฐบาลจีนได้หนุนความเชื่อมั่นในตลาด และอัตราการหมุนเวียนของเงินที่ปรับดีขึ้นอาจรับประกันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยที่ไม่เร่งการขยายตัวของปริมาณเงินในระบบ
เขายังได้คาดการณ์ถึงนโยบายการคลังของรัฐบาลจีนว่าจะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้
ทั้งนี้ นายหม่าได้ระบุถึงปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆที่เศรษฐกิจจีนเผชิญในปีนี้ ประการแรกคือการยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประการที่สองคือราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งทะยานซึ่งอาจบีบให้รัฐบาลนำมาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวดมาใช้ ประการที่สามคือความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในอัตราดอกเบี้ย และประการที่สี่คือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในภูมิภาค สำนักข่าวซินหัวรายงาน