นายมานะ เสาธิจัก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกล่าวกับหนังสือพิมพ์ว่า “ไทยไม่ได้เป็นเพียงคู่ค้าหลักของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางส่งออกผลิตภัณฑ์ของเราไปสู่ตลาดโลก เราไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ หากความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านของเราเลวร้ายลง"
เนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองในไทยยังคงดำเนินอยู่ กลุ่มผู้ส่งออกลาวจึงเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการส่งออกสินค้ามาประเทศไทยในอนาคต ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เดินขบวนอยู่ในกรุงเทพ ให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อปิดกรุงเทพ หากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยไม่ลาออกจากตำแหน่งภายในสัปดาห์นี้ ก่อนหน้าที่จะมีการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.
กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของลาวระบุว่า มูลค่าการส่งออกของลาวในปีนี้ คาดว่า จะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าจำนวนมากจะถูกส่งไปยังประเทศไทย หรือผ่านท่าเรือของไทยไปยังกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ไทยและลาวเห็นพ้องเรื่องการเพิ่มมูลค่าการค้าระดับทวิภาคีขึ้นเป็น 2 เท่า เป็นมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 ในขณะที่ปี 2555 การค้าระหว่างสองประเทศคิดเป็นมูลค่า 4.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.82% จากปีก่อนหน้า
ไทยเป็นคู่ค้าลำดับแรกของลาว และยังเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการนำเข้าน้ำมันเคลือบเงา รถ เครื่องจักร และเหล็กกล้า เช่นเดียวกับที่ลาวก็ส่งออกแผ่นเหล็ก ไม้แปรรูป ผลไม้และผักจำนวนมากไปยังไทย สำนักข่าวซินหัวรายงาน