ข้อมูลที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 0.7% ในเดือนต.ค.2556 นั้น บ่งชี้ว่า แรงกดดันด้านเงินฝืดในยูโรโซนยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง
อัตราเงินเฟ้อรายปีในสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. โดยในเดือนธ.ค.นั้น พบว่ากรีซมีอัตราเงินเฟ้อต่อปีต่ำที่สุดที่ -1.8% ขณะที่เอสโตเนีย ออสเตรียและอังกฤษ มีอัตราเงินเฟ้อสูงสุดที่ 2%
ยูโรสแตทเปิดเผยว่า ปัจจัยที่หนุนอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนมากที่สุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ไฟฟ้า ร้านอาหารและคาเฟ่ ขณะที่ภาคธุรกิจโทรคมนาคม เชื้อเพลิงสำหรับการขนส่งและการแพทย์ ตลอดจนการบริการทางการแพทย์และเวชภัณฑ์นั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อมากที่สุด
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายได้เตือนถึงภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นในประเทศสมาชิกบางประเทศ ซึ่งหลายประเทศที่มีปัญหาหนี้สินมากอยู่แล้วจะต้องแบกรับภาระมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน