อย่างไรก็ตาม รายได้ต่อหุ้นของแอปเปิ้ลเพิ่มขึ้นเป็น 14.5 ดอลลาร์จาก 13.18 ดอลลาร์ อันเนื่องมาจากโครงการซื้อคืนหุ้นของบริษัทส่งผลให้จำนวนหุ้นลดลง
รายได้โดยรวมของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7% สู่ระดับ 5.759 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 5.451 หมื่นล้านดอลลาร์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
รายงานระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ผลกำไรในช่วงเวลาดังกล่าวปรับตัวลดลงนั้น เนื่องมาจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดแท็บเล็ต ซึ่งสกัดกั้นการขยายตัวของยอดขายผลิตภัณฑ์ไอโฟนและไอแพด นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังประสบปัญหาในเรื่องความสามารถด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมในสินค้าประเภทใหม่ๆ นับตั้งแต่บริษัทได้เปิดตัวไอโฟนมาตั้งแต่ปี 2550 และไอแพดตั้งแต่ปี 2553
นักวิเคราะห์คาดว่า แอปเปิ้ลจะมีกำไรต่อหุ้น 14.07 ดอลลาร์ จากรายได้จำนวน 5.746 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แอปเปิ้ลเผชิญกับความท้าทายด้านการแข่งขันที่รุนแรงเช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ โดยในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญของแอปเปิ้ลในตลาดสมาร์ทโฟน ระบุว่า แผนกอุปกรณ์พกพาของบริษัทมีกำไรลดลงในไตรมาสสิ้นสุดเดือนธ.ค. อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทำการตลาดอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ
ขณะที่แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ ระบุว่า ธุรกิจโทรศัพท์มือถือของบริษัทขาดทุนในไตรมาสสิ้นสุดเดือนธ.ค. เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น