ADB เปิดเผยว่า เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถพัฒนาแม่แบบธุรกิจใหม่ๆแก่ผู้ที่มีฐานะยากจนและรายได้ต่ำ อีกทั้งดำเนินการประเมินผลกระทบทางสังคมจากกิจกรรมข้างต้น
เงินช่วยเหลือจะมุ่งเน้นไปที่ "ธุรกิจไม่ปิดกั้น" หรือองค์กรและโครงการต่างๆที่สามารถทำกำไรและผลิตสินค้า บริการและอัตรางาน สำหรับประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 ดอลลาร์/วัน โดย ADB ระบุว่า มีชาวเอเชียเป็นสัดส่วนถึง 60% ที่มีรายได้ในระดับดังกล่าว
นายอาร์มิน บาวเออร์ นักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวในแถลงการณ์ว่า "บริษัทภาคเอกชนนั้นเริ่มจะตระหนักได้ทีละนน้อยว่า กลุ่มที่มีฐานะยากจนและรายได้ต่ำนั้นเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าและบริการ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเฟ้นหาพนักงานและผู้มากความสามารถชั้นดี"
ADB รายงานว่า นอกเหนือจากโครงการต่างๆที่อาจได้รับการสนับสนุนจากเงินช่วยเหลือปีที่แล้ว ยังมีโครงการโกโก้และทุนการศึกษาสำหรับชาวเรือในฟิลิปปินส์ โครงการผลิตเครื่องเทศในกัมพูชาและอินเดีย ตลอดจนโครงการน้ำในจีน
นอกจาก ADB แล้ว ทางรัฐบาลสวีเดนและดครกิต สวิส ซึ่งเป็นองค์กรบริการทางการเงินระหว่างประเทศ ก็ได้ให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือดังกล่าวด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน