NFIB รายงานว่า ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็กขยับลง 2.7 แตะที่ระดับ 91.4 ในเดือนก.พ. หลังจากปรับตัวขึ้นเล็กน้อยใน 2 เดือนที่ผ่านมา โดยดัชนีเคลื่อนไหวอย่างผันผวนระหว่างระดับ 86.5 และ 94.5 นับตั้งแต่สิ้นสุดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งล่าสุดในเดือนมิ.ย. 2552
วิลเลียม ดังเคิลเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NFIB ระบุในแถลงการณ์ว่า “ความไม่คืบหน้าของเศรษฐกิจสหรัฐ กฎหมายประกันสุขภาพที่ไม่มีใครรู้ชะตากรรม สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ การปฏิรูปภาษี และปัจจัยอีกมากมาย ล้วนทำให้ดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็กลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย"
“ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เจ้าของธุรกิจก็จะยังคงระมัดระวังเมื่อต้องเผชิญกับสต็อกที่เพิ่มสูงขึ้น พวกเขาจะไม่ทุ่มเงินให้กับอนาคตที่ตัวเองยังเห็นไม่ชัดเจน" เขาเสริม
องค์ประกอบของดัชนี 6 ใน 10 รายการปรับตัวลงในเดือนก.พ. โดยรายการที่ลดลงมากที่สุดคือ ร้อยละสุทธิของผู้ประกอบการซึ่งคาดหวังให้ยอดขายเพิ่มขึ้นนั้น ลดลงสู่ระดับ 3% และสัดส่วนของเจ้าของธุรกิจที่คาดหวังว่า เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ขยับลงแตะที่ -19%
ทั้งนี้ บริษัทขนาดเล็กคือบริษัทที่มีลูกจ้างไม่ถึง 50 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ โดยนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการจ้างงานถึงครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศสำนักข่าวซินหัวรายงาน