ลู่ ติง นักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นทางธนาคารจึงปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีจีนในช่วงไตรมาสแรกลงสู่ระดับ 7.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 8% นอกจากนั้นยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีจีนตลอดปีนี้ลงแตะระดับ 7.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 7.6%
ขณะเดียวกันศูนย์ศึกษาว่าด้วยจีนในเศรษฐกิจโลก (CCWE) แห่งมหาวิทยาลัยชิงหัว ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีจีนเป็นขยายตัว 7.4% เทียบกับเมื่อเดือนม.ค.ที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.5% โดยหลี่ ต้าวกุย ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญความเสี่ยงขาลง และจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
นายหลี่กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาประจำปีของจีนที่เพิ่งสิ้นสุดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้อาจขยายตัวในลักษณะเดียวกับปี 2556 นั่นคือ ในช่วงครึ่งแรกของปีเศรษฐกิจจะขยายตัวช้าลง ก่อนที่จะค่อยๆขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
นายหลี่กล่าวว่า เพื่อลดแรงกดดันขาลง รัฐบาลจีนจะเร่งผ่อนคลายระเบียบต่างๆเกี่ยวกับการบริหารและยกเลิกระบบผูกขาด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้ รัฐบาลจะใช้นโยบายการคลังในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในเมืองและลงทุนด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน หลิว หลี่กัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านจีนแผ่นดินใหญ่ของ ANZ Bank กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกอาจต่ำกว่า 7.5% และธนาคารกลางจีนจำเป็นต้องปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อให้ตลาดมีสภาพคล่องเพียงพอ สำนักข่าวซินหัวรายงาน