นายโคเฮนระบุว่า ในขณะนี้กระทรวงฯมุ่งเน้นที่ “เส้นทางเข้าและออก" หรือขณะที่มีการใช้เงินเสมือนจริงซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินกระดาษ
“ตามระเบียบข้อบังคับในปัจจุบัน ผมคิดว่าการควบคุมดูแลในลักษณะดังกล่าวเคร่งครัดเพียงพอที่จะป้องกันการฟอกเงิน และภัยคุกคามด้านการเงินอื่นๆที่ผิดกฎหมาย" เขากล่าว
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงฯได้เน้นย้ำว่า แม้กระทรวงการคลังไม่ได้วางแผนที่จะกำกับดูแลการค้าขายในสกุลเงินบิตคอยน์เต็มรูปแบบ แต่กระทรวงฯอาจจะพิจารณามาตรการดังกล่าวหากอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิตัลพัฒนามากขึ้น
“ผู้ที่แค่ใช้สกุลเงินเสมือนจริงทำธุรกรรมต่างๆเช่น ซื้อสินค้า หรือบริการออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติระเบียบข้อบังคับของเรา" นายโคเฮนกล่าวพร้อมเสริมว่า หากต่อไปการใช้เทคโนโลยีแพร่กระจายมากกว่านี้ “เราก็จำเป็นต้องพิจารณาว่า ควรจะออกมาตรการรายงานการใช้เงินเสมือนจริงกับตลาดเงินดิจิตอลหรือไม่"
นอกจากความกังวลเรื่องการฟอกเงิน และการระดมทุนเพื่อก่อการร้ายแล้ว นายโคเฮนชี้ว่า “การไม่ระบุตัวตน" ของการใช้บิตคอยน์ก็ยังใช้เป็นช่องทางในการหลบหนีความผิดทางกฎหมายของสหรัฐได้ด้วย"
“หากผู้ที่มีความผิดตามกฎหมายสามารถใช้เงินเสมือนจริงทำธุรกรรมโดยไม่ระบุตัวตนได้ นั่นหมายความว่า บทลงโทษของเราก็จะด้อยประสิทธิภาพลง" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน