การประเมินดังกล่าวจัดทำโดยเอดีบี ในรายงาน "Asian Development Outlook" ซึ่งเปิดเผยในวันนี้ที่กรุงฮานอย สำหรับอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 6.2% โดยพิจารณาจากการผลิตอาหารที่ค่อนข้างคงที่ การกระตุ้นนโยบายในระดับปานกลาง และเงินดองของเวียดนามที่อ่อนค่าลงเพียงเล็กน้อย
รายงานระบุว่า การเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานต่างๆ หรือการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเกิดคาดของราคาสินค้าและบริการที่ได้รับเงินอุดหนุน จะผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 6.6% ในปี 2558 ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น
เอดีบีระบุผ่านทางเว็บไซต์ว่า ธนาคารพาณิชย์ในเวียดนามจะยังคงมีความยืดหยุ่นในการปรับโครงสร้างหนี้ค้างชำระ ขณะที่การเร่งกระบวนการแก้ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้นั้น จะต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอน และอุดช่องว่างระหว่างมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล
ในปี 2557 นี้ เวียดนาม แอสเซ็ท แมเนจเมนต์ คอมพานี (VAMC) มีแผนที่จะเข้าซื้อหนี้เสียจากธนาคารต่างๆเป็นมูลค่าราว 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทจะเผชิญความท้าทายต่างๆ ได้แก่ การสร้างศักยภาพที่เพียงพอต่อการปรับโครงสร้างหนี้ที่ซับซ้อน และการดำเนินภารกิจที่วางไว้ด้วยแหล่งเงินทุนที่จำกัด สำนักข่าวซินหัวรายงาน