นายจิม ยง คิม ประธานธนาคารโลกกล่าวในการประชุม ซึ่งจัดโดยสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า ธนาคารโลกจะเพิ่มวงเงินกู้ให้กับประเทศดังกล่าวจาก 1 แสนล้านดอลลาร์ จนแตะระดับประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า นอกเหนือไปจากการเพิ่มเงินกู้ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ในส่วนเงินช่วยเหลือและเงินกู้แบบมีเงื่อนไขผ่อนปรน ที่ได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
การกระทำดังกล่าวเป็นการยกระดับความมุ่งมั่นในแต่ละปีของธนาคารโลก จากวงเงินปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และอาจมากกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้า
นายจิม ยง คิม กล่าวว่า “การปรับเพิ่มพลังทางการเงิน แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวที่ไม่คาดคิดมาก่อนของเวิลด์แบงก์ กรุ๊ป ตอนนี้เรากำลังระดมเงินทั้งหมดหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีในช่วงหลายปีข้างหน้า"
ในช่วง 20 ปีที่แล้ว ประชากรโดยเฉลี่ย 35 ล้านคน รอดพ้นจากสภาวะยากจนอย่างถึงที่สุดในแต่ละปี ในการบรรลุเป้าหมายเรื่องการยุติความยากจนในปี 2573 จึงจำเป็นต้องช่วยเหลือประชากร 50 ล้านคนต่อปีให้หลุดพ้นจากความยากจน
ธนาคารโลกคาดว่า ถ้าแต่ละประเทศขยายตัวในอัตราที่เท่ากันในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา อัตราความยากจนทั่วโลก จะลดลงเหลือเพียง 7.7% ในปี 2573 จาก 17.7% ในปี 2553 หากการกระจายรายได้เป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน