“เศรษฐกิจโลกได้มีเสถียรภาพขึ้นนับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการเงิน แต่การฟื้นตัวยังอ่อนแอเกินกว่าจะวางใจได้" นางลาการ์ดกล่าวที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกินส์ที่วอชิงตัน ก่อนการประชุมช่วงฤดูใบไม้ผลิของไอเอ็มเอฟ-ธนาคารโลก
“ยิ่งไปกว่านั้น หากประเทศต่างๆไม่ร่วมกันดำเนินมาตรการด้านนโยบายที่เหมาะสม เราก็อาจจะเผชิญกับภาวะการขยายตัวที่ชะลอลงและต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเป็นระยะเวลาหลายปี ซึ่งจำเป็นต้องมีการสร้างงานที่เพียงพอและปรับปรุงมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น"
นางลาการ์ดระบุว่าไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในปีนี้และปีหน้า เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตที่ 3% ในปีที่แล้ว แต่การฟื้นตัวจะยังคงต่ำกว่าแนวโน้มในอดีต
ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟแนะนำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฝ้าระวังอุปสรรคในระยะใกล้ที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึง อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องในยูโรโซน และสถานการณ์การเมืองโลกที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นอาจจะบั่นทอนแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ก็เผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับหนี้สินภาคเอกชนที่ระดับสูงและความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนรุนแรงของตลาด ซึ่งเชื่อมโยงกับการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในกลางสหรัฐ
นอกจากนี้ นางลาการ์ดยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่ประสานงานกันในการจัดการกับปัญหาว่างงาน หนี้สินที่ระดับสูง และความไม่แน่นอนทางการคลัง โดยเตือนว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่องอาจจะสร้างความเสียหายอย่างหนัก