ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ไอเอ็มเอฟยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2558 เป็นขยายตัว 3.9% ซึ่งลดลง 0.1% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนเช่นกัน
"กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 และคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อไปในปี 2557-2558" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงาน ขณะที่เตือนว่าความเสี่ยงขาลงยังคงปกคลุมแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก แม้เศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วกระเตื้องขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังเตือนด้วยว่า เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความยุ่งยากวุ่นวายในตลาดและลดปัจจัยอ่อนแอต่างๆจากภายนอก
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะอยู่ที่ 2.2% ในปี 2557 ซึ่งเท่ากับการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค. และคาดว่าจะขยายตัว 2.3% ในปี 2558
โดยไอเอ็มเอฟได้ปรับทบทวนตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.1% เป็นขยายตัว 1.2% ในปี 2557 และคาดว่าอัตราการขยายตัวของสหรัฐจะอยู่ที่ 2.8% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานก่อนหน้านี้
รายงานระบุว่า เรื่องสำคัญที่น่าเป็นห่วงสำหรับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วคือ ความเสี่ยงขาลงจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะในยูโรโซน และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับต่ำอย่างยืดเยื้อ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น
ไอเอ็มเอฟชี้ว่า ปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ยกเว้นญี่ปุ่น คือการลดการรัดเข็มขัดทางการคลัง
สำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่น ไอเอ็มเอฟได้หั่นคาดการณ์การขยายตัวลงเหลือ 1.4% ในปี 2557 จากตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วเพียงประเทศเดียวที่ถูกปรับทบทวนอัตราขยายตัวลง โดยไอเอ็มเอฟได้ให้เหตุผลว่าเป็นผลพวงมาจากการขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนการขยายตัวในตลาดเกิดใหม่ปีนี้นั้น ไอเอ็มเอฟได้ปรับทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มตลาดเกิดใหม่โดยรวมลง 0.2% เป็น 4.9% โดยระบุว่าสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟระบุว่า ตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจกำลังพัฒนาจะยังคงสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าสองในสาม
ไอเอ็มเอฟได้คงการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนที่ 7.5% สำหรับปี 2557 และ 7.3% สำหรับปี 2558 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค.