นายลอยด์ แบลงค์เฟน ประธานและซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า "ธุรกิจวาณิชธนกิจและการบริหารจัดการด้านการลงทุน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของโกลด์แมน แซค์ออกมาดีเกินคาด"
ส่วนในช่วงไตรมาส 4/2556 ที่ผ่านมานั้น โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า รายได้สุทธิอยู่ที่ 2.33 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ระดับ 2.89 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากรายได้จากการปริวรรตเงินตรา การซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ และรายได้ประจำ ปรับตัวลดลง
การเปิดเผยผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ในวันนี้ มีขึ้นในช่วงที่ภาคเอกชนของสหรัฐเริ่มทยอยกันเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 74 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 48 เซนต์ต่อหุ้น
ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า กำไรไตรมาสแรกลดลง 19% เนื่องจากรายได้ที่ลดลงจากการซื้อขายตราสารหนี้ โดยผลกำไรของเจพีมอร์แกนปรับตัวลงต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2556 เนื่องจากเจพีมอร์แกนต้องจ่ายเงินมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีและจ่ายค่าเสียหายจากข้อกล่าวหาที่ว่า ทางธนาคารได้เพิกเฉยต่อการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์