ไอเอ็มเอฟระบุว่า ไอเอ็มเอฟได้ให้คำแนะนำในการวิเคราะห์ครั้งก่อนว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน, การกระตุ้นด้านการคลัง และกลยุทธ์ด้านการขยายตัวนั้น จะส่งผลในเชิงบวก เช่น การกระตุ้นกระแสเงินทุนให้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศเหล่านี้ หลังจากที่มีการแถลงนโยบายภายหลังการเข้าดำรงของนายอาเบะในเดือนธ.ค.2555
แต่ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกว่า ผลดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อเอเชียจนถึงปัจจุบันนี้
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังระบุว่า การส่งออกของญี่ปุ่นได้ฟื้นตัวช้ากว่าที่ได้ประเมินไว้ในเบื้องต้น ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความขัดแย้งกับจีน ความคาดหวังของบริษัทต่างๆที่ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงเพียงชั่วคราว และความน่าดึงดูดใจที่ลดลงของสินค้าญี่ปุ่น
ไอเอ็มเอฟตั้งข้อสังเกตว่า ญี่ปุ่นลงทุนโดยตรงในต่างประเทศและปล่อยเงินกู้ให้กับอินโดนีเซีย ประเทศไทย และเวียดนามเพิ่มขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มที่สอดคล้องกับในอดีตที่ผ่านมา
สำหรับผลต่อประเทศญี่ปุ่นนั้น รายงานระบุว่า ในช่วงแรก นโยบายอาเบะโนมิคส์ได้ส่งผลอย่างแข็งแกร่ง แต่ดูเหมือนว่าจะอ่อนแรงลงในระยะต่อมา สำนักข่าวเกียวโดรายงาน