ผลสำรวจชี้สัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านของสหรัฐลดลงสู่ระดับเดียวกับทศวรรษ 1990

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday May 4, 2014 10:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลการสำรวจของสำนักงานสำมะโนประชากรของสหรัฐบ่งชี้ว่า สัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านของชาวอเมริกันได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 ถึงแม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนเจ้าของบ้านยังมีจำนวนต่ำกว่าในช่วงก่อนเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

รายงานระบุว่า ครอบครัวอเมริกันราว 64.8% หรือประมาณ 74.4 ล้านครัวเรือน เป็นเจ้าของบ้านที่กำลังอยู่อาศัยในไตรมาสแรกปีนี้ ลดลงจากระดับ 65.2% ณ สิ้นปี 2556 และเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2538 รวมทั้งได้ลดลงอย่างมากจากปี 2549 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่ 76.5 ล้านครัวเรือนหรือ 68.9%

สำนักงานระบุว่า สาเหตุที่สัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านลดลงอย่างต่อเนื่องมาจากภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้ครอบครัวอเมริกันหลายครอบครัวถูกยึดบ้านเนื่องจากราคาได้ปรับตัวลดลงและผลจากการทำสัญญาผ่อนซื้อที่ไม่ปกติ ซึ่งนำไปสู่ภาวะถดถอยในทั่วโลกและผลักดันให้อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขถึง 2 หลัก

การตกงานจากสาเหตุดังกล่าวนำไปสู่คลื่นลูกที่สองของการถูกยึดบ้าน ส่งผลให้จำนวนของผู้เป็นเจ้าของบ้านลดลง

แต่อย่างไรก็ดี สำนักงานระบุว่า ดูเหมือนว่าคนหนุ่มสาวจะย้ายออกจากครอบครัวไปเช่าบ้านอยู่เองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและสัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านในที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ