รายงานของ NBS ระบุว่า การลงทุนในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 16.4% เทียบเป็นรายปี แตะที่ 2.23 ล้านล้านหยวน ลดลง 0.4% จากไตรมาสแรก
ส่วนยอดขายอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ปรับตัวลดลง 6.9% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ แตะที่ 277.09 ล้านตารางเมตร
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 11 รายของจีน มีการระดมทุนในต่างประเทศจำนวน 1.1801 หมื่นล้านหยวนในเดือนเม.ย. ซึ่งลดลง 24.7% จากเดือนมี.ค. และลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
นายจาง ต้าเหวย นักวิเคราะห์จากบริษัทจงหยวนชี้ว่า การระดมทุนในต่างประเทศที่ลดลงดังกล่าว เป็นผลจากการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และเงินหยวนที่อ่อนค่าลง รวมทั้งราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วประเทศจีน
นายจางยังกล่าวด้วยว่า บริษัทนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวยังต้องประสบกับความยากลำบากในการระดมทุนในจีนด้วย เนื่องจากภาคธนาคารกำลังคุมเข้มในการปล่อยกู้
ด้านนายเจิง ฮงหยู นักวิเคราะห์จากสถาบันเซี่ยงไฮ้ ยี่จู เปิดเผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์กำลังชะลอตัวลง ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากการคุมเข้มด้านการระดมทุนทั้งในจีนและในต่างประเทศ กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะประสบกับวิกฤตทางการเงินในปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน