"ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลง ขณะที่การลงทุนในตลาดก็ซบเซาลงเช่นกัน แต่คาดว่าตลาดของจีนจะไม่ตกต่ำรุนแรง แม้ว่ายอดขายชะลอตัวลงก็ตาม" นายลาร์ดี้กล่าว
ทั้งนี้ นายลาร์ดี้กล่าวว่า การชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของตัวเลขการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์และความต้องการที่อยู่อาศัยของจีนอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนต้องพึ่งพาตลาดที่อยู่อาศัยอย่างมาก แต่จากข้อมูลที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย และหนี้สินภาคครัวเรือนต่อจีดีพีก็ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้จีนไม่ต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยแบบที่สหรัฐเคยเผชิญ
นอกจากนี้ นายลาร์ดี้กล่าวว่า ภาวะด้านการเงินในตลาดที่อยู่อาศัยของจีนและสหรัฐก็มีความแตกต่างกัน เนื่องจากชาวจีนไม่นิยมขายอสังหาริมทรัพย์ของตนเองเหมือนกับที่ชาวสหรัฐได้พากันขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงิน
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คาดการณ์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนโดยรวมจะยังคงมียอดขายที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หลังจากที่ได้หดตัวลงในไตรมาสที่ 1 แต่คาดว่า ยอดขายของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับส่วนใหญ่จะยังคงมีทิศทางที่ดีกว่าตลาด