รายงานระบุว่า การลงทุนในภาคการผลิตและที่อยู่อาศัยจะขยายตัวเชื่องช้ามากขึ้น ขณะที่การลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจะกระเตื้องขึ้น โดยปัจจัยต่างๆ อาทิ ข้อจำกัดด้านเงินทุนและยอดขายบ้านที่ลดลง กำลังส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
สำหรับยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้หดตัวลง 6.9% จากปีก่อนในแง่พื้นที่ และลดลง 7.8% ในแง่ของมูลค่า ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะชะลอตัวลงเนื่องจากยอดขายที่ลดลงตลอดจนการควบคุมการปล่อยกู้
รายงานของ SIC ระบุว่า หากเกิดการปรับฐานอย่างหนักในตลาดที่อยู่อาศัย ก็อาจก่อให้เกิด "ความเสี่ยงเชิงระบบ" โดยความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นรวมถึงในด้านยอดขายปลีก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 12.4% ต่อปี จากที่ขยายตัว 12% ในไตรมาส 1
อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า มีความคืบหน้าที่ดีที่อาจสร้างเสถียรภาพให้แก่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร โดยรายงานได้ระบุถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ อาทิ ทางรถไฟ แหล่งสารสนเทศ ฐานผลิตพลังงานสะอาดและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นต้น
ส่วนการเชิญให้กลุ่มกองทุนทางสังคมเข้ามาลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานนั้นจะช่วยหนุนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเช่นกัน
สำหรับเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวลดลงเหลือ 7.4% ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2555 สำนักข่าวซินหัวรายงาน