แถลงการณ์ของไอเอ็มเอฟหลังภารกิจปรึกษาหารือประจำปีแก่ญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นควรปรับเพิ่มอัตราภาษีการบริโภคเป็น 15% หลังจากที่ปรับเพิ่มเป็น 10% ในเดือนต.ค.ปีหน้า ตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางการคลังของประเทศ ซึ่งนับว่าย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศพัฒนาแล้วที่สำคัญๆ
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟชี้ว่า แนวโน้มระยะใกล้สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนั้น "ยังคงมีทิศทางที่น่าพอใจ" โดยได้รับแรงหนุนจากการผสมผสานนโยบาย "อาเบะโนมิกส์" พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมว่า "ญี่ปุ่นดูเหมือนจะรับมือได้เป็นอย่างดีกับผลกระทบที่เกิดขึ้น" หลังจากที่ได้ปรับเพิ่มภาษี 3% สู่ระดับ 8% เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
ไอเอ็มเอฟเผยว่า การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล "จะช่วยส่งเสริมการลงทุนและการขยายตัว แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาคเอกชนพึ่งพาตนเองทางการเงินได้ ซึ่งส่งผลให้มีความจำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการชดเชยรายได้และมาตรการด้านการใช้จ่ายต่างๆ" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน