ในความเป็นจริงแล้ว นับตั้งแต่โครงการ PRISM ได้ถูกเปิดโปงในปีที่ผ่านมา บริษัทต่างประเทศหลายแห่ง เช่น ไมโครซอฟท์ ไอบีเอ็ม และซิสโก ต่างมียอดขายลดลงอย่างมากในตลาดจีน
ในไตรมาสแรกปีนี้ รายได้จากยอดขายของไอบีเอ็มในตลาดจีนได้ปรับตัวลง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ร่วงลง 23% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 และ 22% ในไตรมาส 3 ปีก่อน
แต่นายมาร์ติน ชโรเดอร์ ซีเอฟโอของไอบีเอ็มกล่าวว่า การปรับตัวลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และยังคงมีโอกาสทางการตลาดในระยะยาว โดยไอบีเอ็มจะยังคงเดินหน้าลงทุนในตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า ตลาดจีนมีสัดส่วนราว 4% ของรายได้ทั้งหมดของไอบีเอ็มในปี 2556 หรือประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์
การ์ทเนอร์ระบุว่า ไอบีเอ็มครองส่วนแบ่งตลาด 28% ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในไตรมาสแรกปีนี้ โดยยังคงรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าวได้ลดลงจากระดับ 37% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ซิสโก้ได้เผชิญกับการลดลงของยอดขายในตลาดจีน โดยรายได้ในตลาดจีนในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค.ปี 2556 หดตัวลง 18% ในขณะที่รายได้จากตลาดเกิดใหม่ 5 แห่ง ซึ่งรวมถึงจีน ร่วงลง 21%
สื่อรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนหลายรายกำลังดำเนินการวิจัยและตรวจสอบการผูกขาดของไอบีเอ็มในตลาดเซิร์ฟเวอร์ของอุตสาหกรรมการเงินจีน และกำลังพิจารณาใช้มาตรการต่างๆ เช่น ส่งเสริมการใช้เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทจีนแทนผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็ม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริงก็จะมีผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของไอบีเอ็มในจีน โดยหุ้นไอบีเอ็มในตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง 1.5% ในการซื้อขายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไอบีเอ็มได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทไม่ทราบเกี่ยวกับนโยบายในการแทนที่เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทที่ใช้กันในภาคธนาคารจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน